ข้อมูลยาสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

Methylphenidate tablet 10 mg (RUBIFEN)

ชื่อสามัญทางยาภาษาไทย

เมทิลเฟนิเดต 10 มิลลิกรัม   Click to listen highlighted text! ชื่อสามัญทางยาภาษาไทย เมทิลเฟนิเดต 10 มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้

-เพื่อรักษาโรคสมาธิสั้น

-เพื่อรักษาโรคลมหลับ (narcolepsy)

-แพทย์อาจใช้ยานี้ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ หากสงสัยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร   Click to listen highlighted text! ข้อบ่งใช้ -เพื่อรักษาโรคสมาธิสั้น -เพื่อรักษาโรคลมหลับ (narcolepsy) -แพทย์อาจใช้ยานี้ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ หากสงสัยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อห้ามใช้และข้อควรระวัง 

1.ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยานี้

2.ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและผู้ป่วยโรคต้อหินชนิดมุมปิด

3.ระวังการใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย

4.ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยลมชัก

5.ควรปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคตับและ/หรือโรคไต หรือกำลังกินยาบางชนิด หากท่านมีภาวะเหล่านี้ควรแจ้งแพทย์ผู้รักษาเพื่อพิจารณาการปรับขนาดยาที่เหมาะสม

6.หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างการรักษา

7.ยานี้ทำให้ง่วงซึมจึงไม่ควรขับขี่ยานยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง

8.ยานี้มีอันตรกิริยากับยาอื่นหลายชนิด ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร   Click to listen highlighted text! ข้อห้ามใช้และข้อควรระวัง  1.ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยานี้ 2.ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและผู้ป่วยโรคต้อหินชนิดมุมปิด 3.ระวังการใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย 4.ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยลมชัก 5.ควรปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคตับและ/หรือโรคไต หรือกำลังกินยาบางชนิด หากท่านมีภาวะเหล่านี้ควรแจ้งแพทย์ผู้รักษาเพื่อพิจารณาการปรับขนาดยาที่เหมาะสม 6.หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างการรักษา 7.ยานี้ทำให้ง่วงซึมจึงไม่ควรขับขี่ยานยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง 8.ยานี้มีอันตรกิริยากับยาอื่นหลายชนิด ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร

คำแนะนำในการใช้ยา 

-ต้องรับประทานยานี้ติดต่อกัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ยาจึงเริ่มออกฤทธิ์การรักษาและอาจต้องรอเวลานานกว่านั้นจึงจะเห็นผลการรักษาเต็มที่จึงควรกินยาตามแพทย์สั่งและไม่ควรกินยาเพิ่มหรือหยุดยาเอง

-ผลของยาในระยะแรกหลังกินมักจะเป็นผลข้างเคียงของยา เช่น ง่วง อ่อนเพลีย เจริญอาหารหรือเบื่ออาหารซึ่งส่วนใหญ่ไม่อันตรายและหายไปได้เอง

-ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพราะขนาดและระยะเวลาในการใช้ยานี้ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของโรค

-หากลืมกินยา ให้กินยาเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้แล้วกินยาเม็ดต่อไปตามมื้อปกติ หากนึกได้ใกล้กับมื้อต่อไปไม่ต้องกินยามื้อนั้นให้รอกินยาของมื้อต่อไปและห้ามกินยาเพิ่มเป็น 2 เท่า   Click to listen highlighted text! คำแนะนำในการใช้ยา  -ต้องรับประทานยานี้ติดต่อกัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ยาจึงเริ่มออกฤทธิ์การรักษาและอาจต้องรอเวลานานกว่านั้นจึงจะเห็นผลการรักษาเต็มที่จึงควรกินยาตามแพทย์สั่งและไม่ควรกินยาเพิ่มหรือหยุดยาเอง -ผลของยาในระยะแรกหลังกินมักจะเป็นผลข้างเคียงของยา เช่น ง่วง อ่อนเพลีย เจริญอาหารหรือเบื่ออาหารซึ่งส่วนใหญ่ไม่อันตรายและหายไปได้เอง -ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพราะขนาดและระยะเวลาในการใช้ยานี้ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของโรค -หากลืมกินยา ให้กินยาเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้แล้วกินยาเม็ดต่อไปตามมื้อปกติ หากนึกได้ใกล้กับมื้อต่อไปไม่ต้องกินยามื้อนั้นให้รอกินยาของมื้อต่อไปและห้ามกินยาเพิ่มเป็น 2 เท่า   

อาการไม่พึงประสงค์ 

-ยานี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่สำคัญ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด นอนไม่หลับ  ใจสั่น ปวดศีรษะ

-ยานี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น   มีภาวะวิตกกังวล กระสับกระส่าย มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือพฤติกรรมแย่ลง เกิดภาวะองคชาติแข็งค้างนานเกินปกติ  หากมีอาการเหล่านี้ควรแจ้งแพทย์

-หากได้รับยานี้แล้วเกิดอาการ ชีพจรเต้นเร็ว วิงเวียน เป็นลม เจ็บหน้าอก   ควรหยุดยาและพบแพทย์ทันที   Click to listen highlighted text! อาการไม่พึงประสงค์  -ยานี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่สำคัญ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด นอนไม่หลับ  ใจสั่น ปวดศีรษะ -ยานี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น   มีภาวะวิตกกังวล กระสับกระส่าย มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือพฤติกรรมแย่ลง เกิดภาวะองคชาติแข็งค้างนานเกินปกติ  หากมีอาการเหล่านี้ควรแจ้งแพทย์ -หากได้รับยานี้แล้วเกิดอาการ ชีพจรเต้นเร็ว วิงเวียน เป็นลม เจ็บหน้าอก   ควรหยุดยาและพบแพทย์ทันที   

การเก็บรักษายา

ควรเก็บยาไว้ในที่แห้ง ใส่ในภาชนะบรรจุปิดสนิท ป้องกันแสง   Click to listen highlighted text! การเก็บรักษายา ควรเก็บยาไว้ในที่แห้ง ใส่ในภาชนะบรรจุปิดสนิท ป้องกันแสง

ที่มาของข้อมูล: นริสา ตัณฑัยย์, พาขวัญ ปุณณุปูรต, วุฒิรัต ธรรมวุฒิ, ผุสดี ปุจฉาการ, นิติ โอสิริสกุล, ชัยรัตน์ ฉายากุล, บรรณาธิการ. ข้อมูลยาประชาชน : ฉลากยาเสริม และข้อมูลความปลอดภัยในการใช้ยา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เดือนตุลา ; 2561. 

ขอความกรุณาผู้ใช้บริการตอบแบบสำรวจ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับฉลากยาออนไลน์ (กดเพื่อตอบแบบสำรวจ)